คุณสามารถคุมกำเนิดได้ด้วยวิธีต่าง ๆ เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์เมื่อคุณมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดกับผู้ชาย คุณมีสิทธิใช้การคุมกำเนิดและเลือกวิธีคุมกำเนิดด้วยวิธีที่เหมาะสมกับคุณที่สุด
ทำไมคุณจึงจำเป็นต้องใช้การคุมกำเนิด?
เมื่อคุณมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดกับผู้ชาย ตัวอสุจิอาจเข้าผสมพันธ์กับไข่ของคุณซึ่งสามารถทำให้เกิดการตั้งครรภ์ หากคุณไม่ต้องการตั้งครรภ์ คุณสามารถใช้การคุมกำเนิดได้
การคุมกำเนิดประเภทต่างๆ
ไม่มีการคุมกำเนิดประเภทใดที่ได้ผล 100% การคุมกำเนิดทุกวิธีมีทั้งข้อดีและข้อเสีย มีหลายเรื่องที่จะต้องคำนึงถึงเมื่อเลือกวิธีคุมกำเนิด เช่น ประสิทธิภาพ ค่าใช้จ่าย ใช้ได้ง่ายแค่ไหน และช่วงอายุของคุณ
วิธีคุมกำเนิดที่ได้ผลที่สุดมีดังต่อไปนี้
ยาคุมกำเนิดแบบชั่วคราวที่ออกฤทธิ์นาน (LARC)
LARC เป็นวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง ข้อดีคือคุณไม่ต้องคิดถึงเรื่องการคุมกำเนิดทุกวันหรือทุกเวลาที่คุณมีเพศสัมพันธ์
การฝังฮอร์โมน (Implanon®)
การฝังฮอร์โมนได้ผลมากกว่า 99% แพทย์หรือพยาบาลใส่ยาคุมกำเนิดชนิดฝังขนาดเล็กเข้าไปใต้ผิวหนังที่ต้นแขนของคุณ ยาคุมกำเนิดชนิดฝังจะปล่อยฮอร์โมนโปรเจสโตเจนซึ่งจะหยุดการตกไข่ออกมา ยาคุมกำเนิดชนิดฝังนี้มีอายุสามปี
การฉีดฮอร์โมนดีโป โปรวีรา (Depo Provera)
การฉีดฮอร์โมนได้ผลมากกว่า 96% แพทย์หรือพยาบาลฉีดฮอร์โมนโปรเจสโตเจนให้คุณทุก 12 สัปดาห์ซึ่งจะหยุดการตกไข่
ห่วงอนามัยคุมกำเนิด (IUD)
IUD ได้ผลมากกว่า 99% IUD แบบฮอร์โมนจะได้ผลดีกว่าแบบทองแดงเล็กน้อย แพทย์หรือพยาบาลใส่ห่วง IUD (อุปกรณ์เล็ก ๆ รูปตัว t) เข้าไปที่มดลูกผ่านทางช่องคลอด ซึ่งจะช่วยหยุดอสุจิไม่ให้เข้าถึงไข่ได้ IUD แบบฮอร์โมน (Mirena® หรือ Kyleena®) อยู่ได้นานห้าปี ส่วน IUD ทองแดง (copper IUD) อยู่ได้นานห้าถึงสิบปี
ยาเม็ดคุมกำเนิด (การคุมกำเนิดทางปาก)
ยาเม็ดคุมกำเนิดได้ผลมากกว่า 93% คุณจะต้องกินยาเม็ดคุมกำเนิดในเวลาเดียวกันทุกวันเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ การคุมกำเนิดทางปากมีสองประเภทหลัก
- ยาเม็ดคุมกำเนิดทางปากรวม ซึ่งบรรจุฮอร์โมนเอสโตรเจนกับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน
- ยาเม็ดคุมกำเนิดที่บรรจุเฉพาะโปรเจสเตอโรน (มินิ พิล)
ห่วงช่องคลอด
ห่วงช่องคลอดได้ผลมากกว่า 93% ห่วงช่องคลอดมีฮอร์โมนเหมือนกันกับที่ผสมในยาเม็ดคุมกำเนิดทางปาก คุณใส่ห่วงใหม่เข้าไปให้ลึกๆ ในช่องคลอดทุกเดือน และปล่อยทิ้งไว้สามสัปดาห์เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์
ถุงยางอนามัย และหมวกครอบปากมดลูก (วิธีขวางกั้น)
การคุมกำเนิดโดยใช้วิธีขวางกั้นทำงานด้วยการหยุดอสุจิไม่ให้ไปถึงไข่ เช่น
- ถุงยางอนามัยสำหรับผู้ชายที่สวมใส่ครอบอวัยวะเพศขณะตื่นตัว (ได้ผลมากกว่า 88%)
- ถุงยางอนามัยสำหรับผู้หญิง แผ่นยางที่สวมใส่พอดี ๆ เข้าไปในช่องคลอด (ได้ผลมากกว่า 79%)
- หมวกครอบปากมดลูกเป็นหมวกซิลิโคนนิ่มที่ใส่เข้าไปในช่องคลอดก่อนการมีเพศสัมพันธ์ (ได้ผลมากกว่า 82%)
ถุงยางอนามัยเป็นการคุมกำเนิดเพียงรูปแบบเดียวที่ป้องกันโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ (STI) ถุงยางอนามัยยังสามารถใช้ร่วมกับการคุมกำเนิดรูปแบบอื่นได้
การคุมกำเนิดแบบถาวร
การคุมกำเนิดแบบถาวรสำหรับสตรีเกี่ยวข้องกับการปิดท่อรังไข่เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ ผู้ชายสามารถมีการคุมกำเนิดแบบถาวรได้ที่เรียกว่า "การตัดหลอดนำอสุจิ" คุณควรพิจารณากระบวนการเหล่านี้ หากคุณไม่ต้องการตั้งครรภ์ในอนาคตเท่านั้น การคุมกำเนิดแบบถาวรมีประสิทธิภาพมากกว่า 99%
การคุมกำเนิดฉุกเฉิน
การคุมกำเนิดฉุกเฉินเป็นที่รู้จักในนาม ยาเม็ด “ในเช้าหลังการมีเพศสัมพันธ์” ด้วย คุณสามารถใช้ยานี้ได้หากคุณลืมทานยาคุมกำเนิดปกติ หรือเมื่อคุณมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน หรือหากถุงยางอนามัยแตกระหว่างการมีเพศสัมพันธ์
ยาเม็ดคุมกำเนิดป้องกันหรือทำให้การตกไข่ล่าช้า – แต่ไม่ป้องกันการตั้งครรภ์เสมอไป ขอรับยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินได้จากแพทย์ หรือเภสัชกรโดยไม่ต้องมีใบสั่งยา ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินได้ผล 85% และมีประสิทธิภาพที่สุดหากทานภายใน 24 ชั่วโมงหลังการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดกับผู้ชาย
คุณควรจะไปพบแพทย์เมื่อไหร่
ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าควรใช้การคุมกำเนิดวิธีใด โปรดปรึกษาแพทย์ แพทย์สามารถอธิบายข้อดีและข้อเสียของแต่ละวิธีเพื่อที่คุณจะตัดสินใจได้ว่าวิธีใดดีที่สุดสำหรับคุณ
คุณจำเป็นต้องมีใบสั่งยาสำหรับการคุมกำเนิดบางรูปแบบ เช่น LARC ห่วงช่องคลอด และยาเม็ดคุมกำเนิด
ถ้าคุณมีเพศสัมพันธ์ เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องรับการตรวจสุขภาพทางเพศเป็นประจำกับแพทย์หรือพยาบาลด้านสุขภาพทางเพศ
สําหรับข้อมูลเพิ่มเติม แหล่งข้อมูล และเอกสารอ้างอิง ไปที่ jeanhailes.org.au/health-a-z/sex-sexual-health/contraception
© 2025 Jean Hailes Foundation. All rights reserved. This publication may not be reproduced in whole or in part by any means without written permission of the copyright owner. Contact: licensing@jeanhailes.org.au